เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๖ ต.ค. ๒๕๔๗

 

เทศน์เช้า วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๗
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

เวลาพวกเรา เราหาที่พึ่งนะ พระรัตนตรัยไง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบศาสนา พระพุทธเจ้าเป็นศาสดา เป็นที่เคารพนับถือของเรา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระธรรมคือเราพยายามค้นคว้าอยู่ พระสงฆ์เราบวชเป็นพระ พระสงฆ์แล้ว พระสงฆ์ คือสังฆะ คือหมู่สงฆ์ แต่ว่าหมู่สงฆ์ต้องทำเป็นสังฆะ หมู่สงฆ์ต้องปรึกษาหารือกัน หมู่สงฆ์ต้องดูแลกัน ให้เป็นหมู่เป็นคณะ ให้หมู่คณะรวมกันไปได้ นี่ความสุขสบายอยู่อย่างนี้นะ

ทิฏฐิเสมอกัน ศีลเสมอกัน พระสงฆ์ที่ไหนก็อยู่สุขสบาย ทิฏฐิไม่เสมอกัน ความคิดไม่เหมือนกัน ทิฏฐิแตกกัน ที่บอกว่า ติดแตกกันมาตั้งแต่เป็น ๑๘ นิกาย ตั้งแต่สมัยพุทธกาลก็ตรงนี้ไง ทิฏฐิความเห็นต่างกัน

พระเถระ ๕๐๐ สังคายนาแล้วบอกว่า ลัทธิต่างๆ เขาเห็นว่า ถ้าธรรมวินัยนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ พระก็รักษากันได้ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพานไปแล้ว ลูกศิษย์ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าจะรักษาศาสนานี้ไว้ไม่ได้ แม้แต่วินัยนี้ก็จะลบล้างไป ถึงลงญัตติกันว่า เราพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์จะลงญัตติว่าเถรวาทเราจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เติมแต่ง ไม่ตัดทอนพระศาสนา เพราะกลัวลัทธิต่างๆ เขาจะว่าอยู่ได้แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เท่านั้น พอพระองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าปรินิพานไปศาสนาก็อยู่ไม่ได้ ถึงได้บัญญัติอย่างนี้มา

แต่ทางลัทธิอื่น อาจริยวาท ฟังแต่อาจารย์ นี่แตกกันไปเป็น ๑๘ นิกาย ใน ๑๘ นิกายก็แตกกันไป แตกกันไป แล้วพอมาเข้ามาในเมืองไทย นี่เถรวาท เถรวาทก็ยังมีนะ มีลังกาวงศ์ มีสยามวงศ์ นี่เป็นมหานิกายมาตลอด จนพระจอมเกล้าฯ ท่านมาเห็นว่าความประพฤติของพระมันไกลกับหลักความจริงมากแล้ว ท่านถึงได้ตั้งธรรมยุตขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง

ตั้งธรรมยุตขึ้นมาพระจอมเกล้าฯ ท่านก็บวช เพราะอะไร เพราะพระพุทธเลิศหล้านภาลัยท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม ท่านจะบวชลูกของท่าน มันต้องเป็นสิ่งที่ยอดที่สุดในสยามวงศ์นี้ บวช บวชพระจอมเกล้าฯ ทีนี้พระจอมเกล้าบวชเป็นมหานิกายมา พระจอมเกล้าไม่ได้สึกจากมหานิกาย พระจอมเกล้าฯ ทำทัฬหีกรรม คือบวชซ้ำ บวชซ้ำ บวชซ้ำ มาตลอด

ฉะนั้น ศาสนามันถึง...ที่ว่าเป็นแตกมาจากมหานิกายก็ถูก เพราะบวชเป็นมหานิกายก่อนไง แล้วทำทัฬหีกรรม แล้วทิฏฐิความเห็นมันต่างกัน พอทิฏฐิความเห็นต่างกันถึงได้สร้างต่างกัน สังฆะต้องเป็นอย่างนั้นไง

ในการประพฤติปฏิบัติ ในการอยู่ของสังคมสงฆ์ ทิฏฐิเสมอกัน ศีลเสมอกัน ถึงเป็นสมานสังวาส แต่ถ้าทิฏฐิต่างกัน ศีลต่างกัน เป็นนานาสังวาส ภิกษุนานาสังวาส ห้ามร่วมกิน ห้ามนอน ห้ามลงสังฆกรรม ห้ามทุกอย่างนะ อยู่ในบุคคล ๑๐ จำพวกที่ว่าพระภิกษุไหว้กันไม่ได้ ภิกษุรับไหว้เณรก็เป็นอาบัติ ภิกษุรับไหว้โยมก็เป็นอาบัติ ภิกษุรับไหว้คนลัทธิต่างๆ ก็เป็นอาบัติ ภิกษุรับไหว้ภิกษุนานาสังวาสก็เป็นอาบัติ

เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องการให้ภิกษุยกขึ้นไป ให้เรา ในเรื่องของสงฆ์ ไม่ให้มาพูดให้โยมฟังเพราะอะไร เพราะหมู่สงฆ์ก็มาจากโยม หมู่สงฆ์นี่ก็มาจากคฤหัสถ์ทั้งนั้นน่ะ คฤหัสถ์มีกิเลสไหม ถ้าคฤหัสถ์มีกิเลส สงฆ์ก็มีกิเลส เพียงแต่สงฆ์บวชแล้วในจตุถกรรม บวชแล้วต้องเป็นนักรบ จะรบกับกิเลสของตัวเอง แต่ก็มีกิเลสอยู่ ในเมื่อมีกิเลสอยู่มันก็ต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ในเมื่อมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ต้องปลงอาบัติ ต้องทำสังฆกรรม ต้องทำสิ่งนี้เข้ามาให้สังฆะนี้ทิฏฐิเสมอกัน ความเห็นเสมอกัน สิ่งที่เสมอกันเพื่อรักษาสงฆ์ของเรา

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แก้วสารพัดนึก

แต่เวลาเราทำบุญกุศล โยมที่นี่คนหนึ่งเขาบอกเลย เขาใส่บาตรเราทุกวันเลย แต่ไม่เคยใส่บาตรเราเลย เห็นไหม เขาใส่บาตรเราทุกวันนะ แต่เขาไม่เคยใส่บาตรเราเลย เพราะก่อนใส่บาตร เขาคิดถึงว่าเขาเอาอาหารถวายสังฆะไง ถวายสงฆ์ แล้วเขาใส่บาตรเรา เขาใส่บาตรเรา

เวลาเราคิดถึงสังฆะ เราคิดตั้งแต่พระอัญญาโกณฑัญญะ พระอัญญาโกณฑัญญะท่านเป็นสงฆ์องค์แรกของโลกเพราะเป็นพระโสดาบัน สงฆ์ หมายถึงพระอริยสงฆ์ แต่ในปุถุชน ๔ องค์ขึ้นไปถึงเป็นสมมุติสงฆ์ ทีนี้สมมุติสงฆ์มันเป็นสังฆะ สิ่งที่เป็นสังฆะถึงต้องลง เวลาสังฆกรรมต้องตั้งญัตติ ตั้งญัตตินี่ค้านแม้แต่องค์เดียวก็ถือว่าความเห็นนั้นแตก ๔ ความเห็นนี้ต้องเหมือนกันหมด ๑๐ ความเห็น ๒๐ ความเห็นต้องไปในทางเดียวกัน ถ้าเป็นทางเดียวกันนี่คือสังฆะ

สิ่งที่เป็นสังฆะ ๑. หมั่นประชุมร่วมกัน ในประชุมต้องพร้อมเพรียงกัน เลิกประชุม เลิกประชุมพร้อมกัน ทำกิจวัตรประจำวันต้องพร้อมกัน สิ่งที่พร้อมกันนี่ศาสนาเจริญ ถ้ามีความเห็นแตก ประชุมก็ไม่ร่วมประชุม ทำอะไรก็ไม่ร่วมทำ สิ่งนั้นสังฆะนั้นอยู่ไปไม่ได้ นี้คือปริหานิยธรรม ในนวโกวาท สงฆ์ต้องเป็นแบบนั้น

เราถึงว่าทำเพื่อสงฆ์ สงฆ์จะอยู่กันสุขสบายต้องเป็นที่สงฆ์ สงฆ์สภาวะแบบนั้น มันย้อนมาดูใจได้ นี่มันถึงว่าปฏิปทาเครื่องดำเนินสำคัญไง สิ่งที่สำคัญ นี่ข้อวัตรปฏิบัติ เช้าขึ้นมาบิณฑบาต เวลามันเป็นไปตามความเป็นจริง เราอยู่กับหลวงตานะ วัดที่ไหนก็แล้วแต่เขามีระฆังใช่ไหม เวลาถึงเวลาเขาจะเคาะระฆัง แล้วก็นัดลงมาที่ศาลาพร้อมกัน พร้อมกัน เวลาอยู่กับหลวงตา หลวงตาบอกนั่นมันหยาบเกินไป สิ่งที่หยาบต้องเคาะระฆัง พอเคาะระฆังนี่มันดังออกไปถึงหมู่บ้าน คฤหัสถ์เขาจะได้ยินเสียงนี้ไปหมดเลย

เขาเป็นคฤหัสถ์ เขาไม่ได้เป็นสงฆ์ สงฆ์เราต้องมีสติต้องมีสัมปชัญญะมากกว่านั้น ท่านนัดเอานะ ๗ โมง ทุ่มหนึ่งรวมเพื่อจะอบรมที่ศาลา พระจะรู้กันเลย ก่อน ๗ โมงจะรวมศาลานั่งพร้อมกันหมดเลย รอเวลาท่านลงมาให้โอวาท เวลาสังฆกรรมบ่ายโมง บ่ายโมงก็เพี๊ยะเลย ตี ๔ ก็ตี ๔ เพี๊ยะเลย เพราะอะไร

เพราะเวลานะ ถ้าเอ็งยังไม่รู้เวล่ำ ไม่รู้เวลา ไม่รู้กติกา แล้วเอ็งไปภาวนาอะไร เอ็งภาวนาไม่เป็นหรอก เอ็งภาวนาไม่ได้หรอก ถ้าเอ็งจะภาวนา กติกาขนาดนี้ เรื่องหยาบๆ อย่างนี้ เอ็งยังทำไม่ได้เลย ถ้าเรื่องหยาบๆ นี้เอ็งทำไม่ได้ แล้วเอ็งจะไปภาวนาตรงไหน ในเมื่อทิฏฐิมานะมันเป็นสภาวะแบบนั้น

การภาวนา สัมมาทิฏฐิ ทิฏฐิความเห็นผิด ความเห็นผิดเราต้องลบจากความเห็นผิดมาเป็นความเห็นถูก เป็นสัมมาทิฏฐิ แล้วสัมมาทิฏฐินี้ก็ต้องไปลบล้างตัวตน เห็นไหม ตัวตนมันใหญ่มาก ตัวตนมันคับฟ้า ตัวตนมันมหาศาล ตัวตนมันถึงจะเหยียบหัวคนอื่น มันถึงมีอำนาจบาตรใหญ่ นี่สังฆะมันจะเข้ามาแบบนี้ นี่ถ้าเป็นปฏิปทาเครื่องดำเนินมันจะลบล้างตรงนั้น ลบล้างตัวตน

ทุกคนเสมอกันหมด ประชาธิปไตย ๑ เสียงเท่ากันหมด แต่เวลาอเมริกามันวีโต้ ทุจริต ทำความผิดขนาดไหนก็วีโต้ ออกเสียงไม่ได้ นี่ประชาธิปไตย ธรรมาธิปไตย คือหัวใจที่เสมอภาคกัน สิ่งเสมอภาคในหัวใจ จะเสียงมากเสียงน้อย

เราอยู่กับหลวงตานะ กฐินเกิดขึ้น เวลามีกฐิน มีผ้าป่าขึ้นมา ท่านถามหมู่นะ “หมู่ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นของสงฆ์ เป็นของกลาง ใครมีความจำเป็นต้องใช้ไหม ถ้าไม่มีใครจำเป็นต้องใช้ ผมจะรักษา ผมจะใช้แทน” เห็นไหม ท่านสะอาดบริสุทธิ์ขนาดนั้นนะ

สงฆ์ ของที่เกิดขึ้นท่ามกลางหมู่สงฆ์นี้เป็นสังฆะ เป็นของของสงฆ์ ไม่มีของส่วนบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้อง นี่เสมอภาคกันหมด ไม่มีใครใหญ่ ไม่มีใครสูง ไม่มีบอก เพียงแต่ธรรมวินัยให้เป็นสิ่งที่เป็นเครื่องความสวยงาม ดอกไม้จะเป็นพวงมาลัยได้ต้องมีเชือกร้อยมัน นี่ศีลธรรมเป็นเครื่องร้อยให้พระมีความสวยงาม ถึงมีอาวุโส มีภันเตไง

อาวุโส ภันเต เราเคารพธรรมวินัย เราไม่ได้เคารพอาวุโสภันเตนะ เราเคารพธรรมวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราถึงกราบไหว้แล้วแต่อาวุโสภันเตลงมา แล้วอาวุโสภันเตนี่เป็นธรรมวินัย แล้วในธรรมวินัยนั้นก็มีว่าเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม ถ้าไม่เป็นธรรมให้ ร้อยพรรษา ให้ห้าแสนพรรษา ก็ไม่ต้องไปกราบมัน เพราะมันเป็นอลัชชีไปกราบมันทำไม ไม่ต้องกราบ ไม่ผิดธรรมวินัย ธรรมวินัยมันมีขนาดนั้นนะ ให้เราแก้ไข ให้เรามีทางออกไป ถ้ามีทางออกมา นี่สังฆะ การสร้างขึ้นมาเพื่อสงฆ์ เพื่ออยู่ เพื่อสงฆ์ เพื่ออะไร มันเป็นการแบกหามกันไป ถ้าสังฆะเป็นแบบนี้

วันนี้วันพระนะ วันพระวันเจ้า นี่เรื่องของพระ “วันพระ” ๗ วัน วันพระหนหนึ่ง วันพระหนหนึ่งเราก็รักษาพระในหัวใจของเราหนหนึ่ง เราดูผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พุทโธในหัวใจของเรา ถ้าเราย้อนกลับมาที่นี่ เราจะเห็นความเห็นของเรา เราจะเป็นความจริงของเรา ถ้าความจริงของเรา เราจะแก้ไขของเรา

สมมุติสงฆ์อันหนึ่ง อริยสงฆ์อันหนึ่ง ประเพณีของคฤหัสถ์อย่างหนึ่ง ประเพณีของพระอริยเจ้า การซ้อนผ้าออกธุดงควัตรก็เป็นประเพณี เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้านะ พระพุทธเจ้าวางประเพณีอันนี้ไว้ แล้วเราทรงประเพณีนี้ไว้ ประเพณี อริยประเพณี แล้วก็ปฏิปทาเครื่องดำเนิน จะย้อนเข้าไปถึงใจของตัวเอง จะไปล้มตัวตนของใจของเราเอง จะไปล้มทิฏฐิมาของเราเอง นี้คือสังฆะ นี้คือหมู่สงฆ์ สร้างวัดเพื่อเหตุนี้ เอวัง